ตอนที่ 23 – เวลาพิพากษา (1)
กล่องสุ่มไอเท็มจำนวนจำกัด… ตามการตั้งค่าของหนทางเอาชีวิตรอด นี่คือไอเท็มที่มาขายในจำนวนจำกัดใน ‘สถานการณ์’ ที่ผ่านมา
[อ่า ไม่สิ ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่?] บีรยูที่ตื่นตระหนกตะโกนออกมาอย่างช้าๆ [ม-ม-มันถูกแบนไปทันทีหลังจากถูกปล่อยออกมา!]
ตามหนทางเอาชีวิตรอดแบบเดิม การตั้งค่าของไอเท็มนี้ค่อนข้างซับซ้อน ไอเท็มนี้ถูกปล่อยออกมานานแล้วก่อนที่สถานการณ์ของดาวเคราะห์ 8612 จะเริ่มต้นขึ้น มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกแบนอย่างเด็ดขาดจากสำนักบริหารการถ่ายทอดสดดวงดาว
ถ้าไอเท็มย่อยถูกใส่เข้าไป มันก็จะคายไอเท็มชั้นยอดออกมา ‘อย่างไม่มีเงื่อนไข’ นี่คงจะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อสมดุลของสถานการณ์ นอกจากนี้ ราคาของกล่องไอเท็ม 1 กล่องยังสูงถึง 1 ล้านเหรียญ กลุ่มดาวต่างพากันโกรธกับนโยบายเรียกเก็บเงินที่ไร้สาระนี้มาก ดังนั้นโดเกบิผู้โง่เขลาที่คิดค้นไอเท็มนี้จึงถูกไล่ออกจากสำนักบริหาร
[ก-กลุ่มดาว มันเป็นแบบนี้… ข้าไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่… ฮิ-ฮิฮิฮิ! สิ้นสุดการออกอากาศ!]
[ช่อง #BI-7623 ปิดชั่วคราว]
บีรยูที่กำลังส่งเสียงพร่ำเพ้อปิดช่อง และเสียงจากกลุ่มดาวก็หายไป ผมเสียใจที่ไม่ได้เห็นปฏิกิริยาของกลุ่มดาว แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ผมก้มมองลงไปยังกล่องที่กำลังสั่นอยู่ การสุ่มกำลังจะเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง
[ไอเท็มประเภทดาบจะมอบรางวัลให้กับการใส่ไอเท็มประเภทเดียวกันลงไป!]
[การสุ่มเริ่มต้นขึ้น!]
กล่องสุ่มไอเท็มจำนวนจำกัดจะสุ่มไอเท็มที่มีระดับสูงกว่าไอเท็มที่คุณใส่ลงไป มันมีโอกาสเป็นไปได้ทุกอย่างตั้งแต่ระดับ C – SSS ในท้ายที่สุด มันก็ขึ้นอยู่กับดวง
[ไอเท็มที่ออกมาจะเกี่ยวพันกับกลุ่มดาวแน่นอน!]
[ความน่าจะเป็นที่ไอเท็มที่เชื่อมโยงกับกลุ่มดาวจะปรากฏขึ้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก]
‘…เอ๋?’
มันเป็นข้อความที่ไม่คาดคิด แต่มันก็ไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นข้อเสียสำหรับผม มือทั้งสองข้างของผมหลั่งเหงื่อออกมา ผมไม่ได้กังวลอะไรมากขนาดนี้เมื่อผมสุ่มไอเท็มในเกมออนไลน์
‘ขอให้เป็นระดับ A ด้วยเถอะ’
[ไอเท็มชั้นยอดปรากฏตัวแล้ว!]
[จำนวนของกล่องสุ่มไอเท็มที่เหลืออยู่คือ 0]
ในไม่ช้ากล่องก็หยุดสั่น และแสงจางๆ ก็เบาลง จากนั้นผมก็หันไปมองยูซานอาและลีกิลยังที่ดวงตากำลังเปล่งประกาย
“พวกเราจะเปิดมันเลยไหม?”
“เอาสิ”
พวกเราเปิดกล่อง
“ว-ว้าว!” ลีกิลยังประหลาดใจมากจนเขากรีดร้องออกมา
อย่างไรก็ตาม มันก็น่าทึ่งจริงๆ ด้วยด้ามสีเงินหรูและใบมีดสีขาว… รูปร่างของมันคล้ายๆ กับศรัทธาแตกสลาย? ผมตรวจสอบข้อมูลของไอเท็มนี้ในทันที
+
[ข้อมูลไอเท็ม]
ชื่อ: ศรัทธาไม่แตกสลาย
ระดับ: สตาร์รีลิค (Star Relic)
รายละเอียด: ในอดีต มันเป็นดาบของวีรบุรุษ ‘ไคเซ็นนิกส์’ ที่เป็นผู้นำกรูเสดในช่วงยุคมหาปีศาจ อากาศธาตุอันยิ่งใหญ่ของไคเซ็นนิกส์ทำให้เขาสามารถสร้าง ‘ใบมีดแห่งศรัทธา’ ที่บรรจุพลังธาตุไฟ ความมืด และพลังศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้ตามลำดับ
ออฟชั่นเพิ่มเติม มันสามารถเพิ่ม STA และ STR ได้สองเลเวล
+
ผมพูดไม่ออก ไม่สิ… นี่มันเรื่องจริงเหรอ? มันไม่ใช่แค่การจัดอันดับธรรมดา แต่มันคือสตาร์รีลิค?
“ท-ทกจา! ไม่ใช่ว่ามันดูยอดไปเลยเหรอ?”
มันเป็นไอเท็มชั้นยอดจริงๆ
ในโลกของหนทางเอาชีวิตรอด ‘สตาร์รีลิค’ คือไอเท็มเดียวที่ไม่รวมอยู่ในตารางจัดอันดับ ไม่ใช่แค่เพราะพวกมันมีประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เพราะไอเท็มพวกนี้พิเศษ
สตาร์รีลิคทุกชิ้นจะบรรจุพลังของกลุ่มดาวที่ยังมีชีวิตอยู่ ความแตกต่างของประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มดาวนั้นเป็นวีรบุรุษของโลกสักใบหรือไม่ และพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ยังไงก็ตาม พวกมันได้บรรจุไว้ซึ่งพลังของกลุ่มดาว ดังนั้นรีลิคจึงมีมูลค่าสูงมาก
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังยกระดับเลเวล STA และ STR ของผมอีกสองระดับ เมื่อพิจารณาว่าไอเท็มระดับ A นั้นช่วยเพิ่มค่าสถานะทั้งหมด 1 หน่วย ไอเท็มชิ้นนี้อย่างน้อยจะต้องเป็นระดับ S แน่ๆ ยูจงฮยอคก็คงยังไม่มีไอเท็มแบบนี้
ผมหันไปมองยูซานอาและลีกิลยัง “…ฉันเอามันไปได้จริงๆ เหรอ?”
“แน่นอน มันย่อมต้องเป็นของทกจา” ยูซานอาตอบกลับมา ลีกิลยังเองก็พยักหน้ารัวๆ ผมมองไปยังฮันมยอนโก แต่เขาก็กำลังกินขาหนูดินอยู่พร้อมด้วยสีหน้าโง่งมในขณะที่พึมพำอะไรก็ไม่รู้กับตัวเอง ผมคิดว่าเขาคงจะยอมรับ… มันแปลกๆ
[คุณได้รับสตาร์รีลิค]
[เจ้าของสตาร์รีลิคสงสัยเกี่ยวกับคุณ]
ข้อความแสดงให้เห็นว่ากลุ่มดาวนี้มีตัวตนอยู่ที่ไหนสักแห่ง หลังจากนั้น ผมก็เปิดหนทางเอาชีวิตรอดขึ้นและมองไปที่มัน
“งั้นพวกเราควรกลับได้แล้ว มันมีหนูดินอยู่ข้างนอกเยอะแยะ ดังนั้นพวกเราแค่เอาเตาพลังเวทมนตร์กลับไปก็พอแล้ว”
“ยังไงก็เถอะ พวกเราจะกลับไปยังไง?”
“มีพลังของกิลยังอยู่ก็ไม่มีปัญหา ใช้การสื่อสารที่หลากหลาย…”
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของลีกิลยังก็ไม่ได้สดใส “พี่ ผม…”
“ฮะ?”
“แถวนี้ไม่มีแมลง”
เมื่อมาลองคิดดู แมลงที่อยู่แถวนี้คงระเบิดไปจากแรงกดดันเมื่อผมต่อสู้กับผู้พิทักษ์ความมืด มันเป็นปัญหาที่ผมไม่ได้คิดไว้ “ไม่มีเลยเหรอ? น่าจะมีบางตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าพวกเราขยับไปสักหน่อยและใช้ความสามารถ…”
มันมีแมลงอยู่มากมายในโลกที่ผมไม่ได้มีความเห็นใจอะไรเมื่อพวกมันตายไป แต่ลีกิลยังนั้นยังคงมีสีหน้าที่มืดมน
“เอ่อ จริงๆ ก็มีตัวนึงที่ผมสามารถเรียกมาได้…” ลีกิลยังหลับตาลงและเริ่มตั้งสมาธิ
“ทกจา มันแปลกๆ หน่อยไหม?”
ดวงตาของลีกิลยังค่อยๆ สูญเสียโฟกัส จากนั้นเลือดก็ไหลออกมาจากจมูกของเขา
“กิลยัง?”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงสั่นสะเทือนดังออกมาจากเบื้องบน ฝุ่นเริ่มโปรยปรายลงมา การสั่นสะเทือนมาจากเบื้องบนพื้นดิน…
ในเวลานั้นเอง ขนของผมก็ลุกชันขึ้น
“กิลยัง! ลีกิลยัง! ตื่น!”
“เอ๋… พี่?” ดวงตาของลีกิลยังกลับคืนสู่ปกติ
“กิลยัง หยุดสกิล! เร็วเข้า!”
ลีกิลยังที่กำลังประหลาดใจหยุดใช้สกิล และการสั่นสะเทือนก็ลดลง ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก
มันมีมอนสเตอร์ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งกำลังวิ่งไปรอบๆ อยู่ข้างบน มันมีมอนสเตอร์อันดับสูงมาก รวมทั้งแรดระดับ 7 ในบรรดามอนสเตอร์ทั้งหมดมีราชาแมลงอยู่ด้วย เห็นได้ชัดว่ามันคือแมลงตามชื่อของมัน
“นายนี่มันจริงๆ…” ผมวางมือลงบนหัวของลีกิลยังและไม่ได้พูดอะไร ลีกิลยังกำลังจะเรียกราชาแมลงจากเบื้องบน… เขาบ้าไปแล้วเหรอ? พวกเราเกือบจะถูกฝังอยู่ที่นี่แล้ว
“จากนี้ไป ผนึกสกิลนี้ไว้ อย่าใช้มันเว้นเสียแต่ว่าฉันจะบอกนาย เข้าใจไหม?”
“ครับ…” ลีกิลยังตอบด้วยท่าทางเศร้าๆ ในตอนนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอ
“พวกเราจะหลงทางในความมืด รออีกสักหน่อยแล้วค่อยเคลื่อนไหวเมื่อมีแมลงตัวเล็กๆ เข้ามา”
มันง่ายที่จะเข้ามาแต่ชายขอบแห่งความมืดคือสถานที่ที่อันตรายมาก นี่เป็นสถานที่ที่จะมีคนหายไปได้ 1-2 วันถ้าทำอะไรผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อย จากนั้นยูซานอาก็ยกมือขึ้น “ถ้ามันแค่กลับไป ฉันคิดว่าฉันสามารถทำแทนกิลยังได้นะ”
“…ยังไง?” ผมกำลังจะถามว่าเธอจะคุยกับชายขอบแห่งความมืดงั้นเหรอ แต่ก็หยุดไว้เพราะมันฟังดูประชดประชัน ยูซานอาตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจเล็กน้อย “ฉันมีสกิลที่คล้ายๆ กัน”
เมื่อผมคิดถึงมัน ผมก็ยังไม่รู้แอตทริบิวต์หรือผู้สนับสนุนของยูซานอาเลย
“สกิลอะไร?”
“นั่น มันเป็นสกิลที่ซับซ้อนในการปล่อยเส้นใย…”
ปล่อยเส้นใย?
“…ขอโทษนะ ขอฉันถามได้ไหมว่าแอตทริบิวต์ของเธอคืออะไร?”
ยูซานอาไม่ใช่ตัวละครในนิยาย ดังนั้นผมจึงไม่รู้จักแอตทริบิวต์ของเธอ มันเป็นเหมือนกับลีกิลยังและฮันมยอนโก
“เอ่อ นั่น…”
ยูซานอาแสดงท่าทางที่ยากลำบาก มันคงจะไม่น่าผิดหวังขนาดนี้ถ้าผมสามารถใช้ลิสต์ตัวละครกับยูซานอาได้ ผมพยายามที่จะใช้ลิสต์ตัวละครอีกครั้งเพื่อทดสอบ
[สกิลเฉพาะตัว ลิสต์ตัวละครถูกเปิดใช้งาน]
[บุคคลนี้ไม่ได้ลงทะเบียนใน ‘ลิสต์ตัวละคร’]’
แน่นอน… แต่ก็มีอีกหนึ่งข้อความ
[กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนที่สอดคล้องกัน]
‘…เอ๋?’
มันเป็นข้อความที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อมาคิดถึงมัน ผมได้ยินข้อความของระบบเมื่อยูซานอาใช้สกิล ‘ล่าม’ มันไม่ใช่สิ่งที่เดิมทีจะได้ยิน เป็นไปได้ไหมว่าลิสต์ตัวละครได้ถูกอัพเดตเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง? บางที…
ผมจัดระเบียบความคิดของตัวเองและตัดสินใจปล่อยยูซานอาไป “ลืมที่ฉันถามไปเถอะ ยังไงก็เถอะ ทำได้ดี ในอนาคต อย่าปล่อยให้ใครรู้แอตทริบิวต์ส่วนตัวของเธอ”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ! ฉันเชื่อใจทกจา…!” อืม สีหน้าของยูซานอาบอกว่ามันเป็นอย่างนั้น
ในเวลานั้นเอง ผมก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา “ยูซานอาช่วยบอกลักษณะของผู้สนับสนุนของเธอได้ไหม?”
ยูซานอาก้มหน้าลง “ขอโทษนะ”
คำพูดที่เบาหวิวหลบรอดออกมาจากริมฝีปากสั่นๆ ของเธอ จากระดับนี้ มันเป็นไปได้ว่าเธอได้ทำสัญญาบางอย่างในสัญญากับผู้สนับสนุนของเธอ บางทีมันอาจจะมีสัญญาชีวิตเกี่ยวกับการแพร่งพรายข้อมูล ผมไม่รู้ว่าผู้สนับสนุนพวกนั้นเป็นยังไง แต่มันดูเหมือนว่าพวกมันได้ตัดสินใจที่จะสนับสนุนยูซานอาอย่างจริงจัง
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ”
“ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ…”
ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผม ความจริงที่ว่าเธอไม่สามารถบอกผมเกี่ยวกับผู้สนับสนุนของเธอ… มันทำให้หัวใจของผมหดเกร็ง มันเป็นความปรารถนาของผู้อ่านที่ต้องการจะเติมเต็มช่องว่าง
“งั้นลองใช้สกิลของเธอดู”
ในไม่ช้า ด้ายที่เปล่งประกายจางๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากปลายนิ้วของยูซานอาและเริ่มยื่นออกไป “อันที่จริง ฉันผูก ‘ด้าย’ ไว้เมื่อตอนถูกลักพาตัว”
ด้ายข้างหนึ่งเชื่อมต่อกับตัวผมและอีกข้างเชื่อมกับข้างนอก บางทีมันอาจจะผูกกับลีฮุนซึงหรือไม่ก็จางฮีวอนไว้
“ไปกันเถอะ”
ไม่มีเหตุผลที่ยูซานอาต้องมีสกิลเช่นนี้ตั้งแต่ต้น นี่ต้องเป็นอักขระที่ผู้สนับสนุนมอบให้กับเธอแน่ๆ ถึงยังไงก็เถอะ มันก็เป็น ‘ด้าย’ ที่ใช้เพื่อหลบหนีจากเขาวงกต สิ่งนี้… ผมคิดว่ามันเป็นกลุ่มดาวที่ผมพอรู้จักอยู่บ้าง
[ช่อง BI-7623 ถูกเปิด]
ผมเริ่มได้ยินเสียงข้อความจากกลุ่มดาวอีกครั้ง
[กลุ่มดาวจำนวนหนึ่งได้ต่อว่ากับระบบส่งสัญญาณของช่อง!]
[กลุ่มดาว ‘มังกรอเวจีเปลวเพลิงทมิฬ’ สงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ออกมาจากกล่องสุ่มไอเท็ม]
อ่า พวกมันไม่เห็นเหรอ? น่าเสียดาย
[บัดซบ! ไอ้บ้านั่นมายุ่งกับช่องของฉัน! เจ้าสบายดีไหมตอนข้าไม่อยู่?]
เยี่ยม… เสียงที่คุ้นเคยดังออกมาแล้ว
บีฮยอง
* * *
[…เจ้าทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้เมื่อข้าไม่อยู่เนี่ยนะ?]
‘มันเพราะฉันงั้นเหรอที่ทำให้แกกลับมาไม่ได้?’
[มัน.. ใช่แล้ว มันไม่เกี่ยวกัน ฉันได้รับคำเตือนจากสำนักบริหารเพราะโฆษณานานเกินไป]
ในตอนนี้ เสียงของบีฮยองดังเฉพาะกับผมเท่านั้น มันคือ ‘การสื่อสารของโดเกบิ’ ที่มีเฉพาะโดเกบิเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ มิฉะนั้น มันจะเป็นการละเมิดกฎที่ชัดเจนเพื่อให้ผมใช้มันได้
[ข้าตัดสินใจที่จะไม่สนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในตอนนี้ ข้าสามารถไปมาที่สำนักบริหารได้ เอาเถอะ… เจ้ารู้เกี่ยวกับ ‘กล่องสุ่ม’ ได้ยังไง?]
‘ฉันเจอมันโดยบังเอิญ’
[บัดซบ มันยังมีเศษซากของประวัติศาสตร์สีดำหลงเหลืออยู่ ทำไมกล่องนั้นถึงมี…]
‘ประวัติศาสตร์สีดำ?’
[…..]
‘…เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่าไอเท็มนั้นถูกวางแผนไว้โดยแกงั้นเหรอ?’
ในฐานะผู้อ่านหนทางเอาชีวิตรอด ผมไม่รู้เรื่องนี้
[บัดซบ! ถ้าตอนนั้นข้าไม่โลภ…]
คำบ่นของบีฮยองถูกแทรกโดยเสียงร้องด้วยความชื่นชมของจางฮีวอน “ว้าว มันอร่อยจริงๆ! สุดยอด”
10 นาทีต่อมา พวกเราก็กลับมายังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งต้องขอบคุณการนำทางของยูซานอา โชคดีที่จางฮีวอนและลีฮุนซึงได้รักษาพื้นที่ไว้จนกระทั่งพวกเรากลับมา
“เธอจะฟื้นตัวขึ้นนิดหน่อยหลังจากกินเข้าไปแล้ว”
“อืม ฉันคิดว่าร่างกายของฉันดีขึ้นจริงๆ” จางฮีวอนดูเหมือนจะดีขึ้นมากในขณะที่เธอเหวี่ยงไหล่เพื่อทดสอบ เนื้อของสายพันธุ์ใต้ดินมีส่วนประกอบในการล้างพิษได้จริงๆ
“นายได้อะไรมาเยอะเลยใช่ไหม? นอกจากเตาพลังเวทมนตร์…”
ผมมองไปยังลีฮุนซึงและกล่าวว่า “ก็นิดหน่อย”
ลีฮุนซึงใส่ๆ ถอดๆ โล่เหล็กเก่าที่ได้มาจากผมซ้ำไปซ้ำมา ในตอนนี้ เขากำลังขัดมันอีกครั้ง มันเหมือนกับคนที่เพิ่งได้รถมาใหม่
[ตัวละคร ‘ลีฮุนซึง’ รู้สึกภักดีต่อคุณเล็กน้อย]
จางฮีวอนดูเหมือนจะอิจฉาอยู่บ้างและถาม “มันไม่มีของที่ฉันใช้ได้บ้างเหรอ?”
“ไม่มี”
“ดาบนั่นล่ะ?”
“มันเป็นของฉัน”
“…นายจะแจกเนื้อให้กับคนอื่นไหม?”
“ถ้าพวกเขามีเหรียญนะ”
“แต่… นายนี่มันขี้งกจริงๆ คิมทกจา”
“ให้พูดว่าฉันมีความรู้สึกถึงความอยู่รอดอันแข็งแกร่งเถอะ”
ในขณะที่พวกเราเดินไปพร้อมกับหนูดินที่ปรุงสุกแล้ว อุโมงค์ก็สิ้นสุดลง ทันใดนั้นเอง สภาพแวดล้อมก็สว่างขึ้นและเริ่มเห็นผู้คน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศก็แปลกๆ ทำไมมันทั้งเร่งรีบและคึกคักแบบนี้?
[เวลาชำระเหลืออีก 20 นาที]
[เตรียมการณ์สำหรับราคาแห่งการรอดชีวิต]
ผมสังเกตเวลาช้าไป ใช่แล้ว มันได้เวลาแล้ว มันวิเศษมากที่คำว่า ‘ราคา’ ฟังดูน่ากลัวขนาดนี้
“เหรียญ ได้โปรด เหรียญ!”
“ฉันมีเหรียญไม่พอ! ได้โปรด ขอเหรียญสักหน่อย…”
100 เหรียญคงไม่เป็นปัญหาถ้าพวกเขาเข้าร่วมสถานการณ์อย่างซื่อสัตย์ แต่มนุษย์แบบนั้นคงหาได้ยาก
“ฉันจะให้นายหนึ่งล้านวอน – ไม่สิ สิบล้านวอน! ใครจะขาย 100 เหรียญ?”
ราคาของเหรียญเพิ่มสูงขึ้น มันตลกดี เงินตราไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อการทำลายล้างเริ่มต้นขึ้น มีคนกำลังยิ้มอยู่ในขณะที่พวกเขาเฝ้ามองจากระยะไกล พวกเขาเหล่านี้มีเหรียญพอแล้ว มันคือชอนอินโฮและกลุ่มซอลโด มีผู้หญิงหลายคนกำลังเฮโลกันไปยังคนกลุ่มนั้นและตะโกนออกมา “น-นายบอกว่านายจะให้ฉัน 100 เหรียญ!”
“หืมม งั้นเหรอ? ฉันจำไม่ได้เลย”
“อะไรนะ…?”
“ฉันจะคิดอีกครั้งละกันถ้าเธอให้ฉันทำมันอีกครั้ง เป็นยังไง?”
จางฮีวอนดึงมีดของเธอออกมาและจ้องไปยังคนพวกนั้น “ไอ้พวกสารเลว…”
[แอตทริบิวต์ของตัวละคร ‘จางฮีวอน’ กำลังจะเบ่งบาน]
เวลาสำหรับจางฮีวอนมาถึงแล้ว ไม่เลวเลยถ้าแอตทริบิวต์ของเธอจะเบ่งบานตอนนี้… แต่เธอจำเป็นต้องอดทนเพื่อให้ได้ ‘แอตทริบิวต์’ ที่ผมคิด จากนั้นข้อความของระบบก็ปรากฏขึ้น
[หลังจากนี้สักครู่ การชำระเพื่อการอยู่รอดจะเริ่มต้นขึ้น]
“ช-ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉันที!”
การแสดงออกภายในกลุ่มเปลี่ยนไป ลีฮุนซึงก้มหัวลงอย่างเศร้าๆ และจางฮีวอนก็เม้มปากของเธอในขณะที่ถือดาบไว้ ทุกคนรู้ดีว่าราคาของ ‘การชำระ’ คืออะไร ไม่มีใครที่ไม่เคยสัมผัสกับมัน จากนั้นยูซานอาก็มองมาที่ผม “…ทกจา”
“หืม”
ในโลกนี้ เหรียญคือพลัง คนที่มีเหรียญย่อมได้รับไอเท็มดีๆ ไม่ก็ค่าสถานะดีๆ เหรียญเป็นทุกๆ อย่าง
[กลุ่มดาวหลายกลุ่มที่มาพร้อมกับการแนะนำสถานการณ์ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในช่อง]
[กลุ่มดาวนักเขียนลับตั้งตารอคอยทางเลือกของคุณ]
[กลุ่มดาวนักโทษรัดเกล้าทองคำตั้งตารอคอยทางเลือกของคุณ]
[กลุ่มดาวผู้พิพากษาเปลวเพลิงปีศาจตั้งตารอคอยทางเลือกของคุณ]
…และตอนนี้ผมก็เป็นคนที่มีเหรียญมากที่สุดในสถานีนี้
(จบตอน)