ตอนที่ 152 – ปราสาททมิฬ (3)
“…คำพูดก่อนหน้านี้หมายถึงลุงงั้นเหรอ?”
“อะไร?”
“กลุ่มดาวใหม่ในโซล บลาๆๆ…”
“อ่า… อืม ใช่แล้ว”
ผมยิ้มอย่างขมขื่นในขณะจ้องมองปีศาจรอบตัว ผมรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นวิกฤติของลีจีฮเย แต่เธอก็ดูเหมือนว่าจะรีบร้อนเกินไป
วิสเคานท์ปีศาจโนสล็อค ปีศาจอันร้ายกาจที่มีลักษณะคล้ายกับแรดคือปีศาจที่ฉีกกระชากอวตารมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ผมจัดการกับปีศาจชั้นสูงในทีเดียวและตระหนักได้ว่าตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหน
ลีจีฮเยเห็นร่างกายของมันที่ทรุดตัวลงและพึมพำ “มันแข็งแกร่งมาก… ลุงแข็งแกร่งขนาดไหนกันหลังจากกลายเป็นกลุ่มดาว?”
“ฉันไม่ได้จัดการกับมันโดยใช้ความแข็งแกร่งของตัวเอง ฉันยืมพลังของเรื่องราวอื่น”
“เรื่องราวอื่น?”
[เจ้า… เป็น… ใคร…] ผมมองไปยังโนสล็อคที่ยังหายใจอยู่
“เดี๋ยวนะ”
ผมเหยียบทำลายหัวของโนสล็อค
[คุณเอาชนะชนชั้นสูงแห่งโลกปีศาจ!]
[คุณได้รับเงิน 10,000 เหรียญ!]
[ได้รับ ‘บทพิสูจน์ปีศาจขั้นสูง’]
[เผ่าพันธุ์ย่อยของโลกปีศาจจะหวาดกลัวคุณ]
เดิมทีการฆ่าปีศาจรับใช้จะทำให้ได้รับความสนใจจาก ‘ราชาปีศาจ’ ของพวกมัน แต่สถานการณ์นี้ต่างออกไป ปีศาจทั้งหมดในสถานการณ์ปราสาททมิฬกำลังรอ ‘เจ้านาย’ ใหม่ของตัวเองอยู่
[กลุ่มดาวหลายกลุ่มประหลาดใจกับการปรากฏตัวอันสุดยอดของคุณ]
[กลุ่มดาวจำนวนมากตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ของคุณ]
แน่นอนว่าความน่าจะเป็นนั้นเป็นที่น่าสงสัย ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของผมอยู่ในระดับที่ละเมิดความสมดุลของสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่เพราะผมเป็นกลุ่มดาวที่ทำให้ผมสามารถกำจัดโนสล็อคได้อย่างง่ายดาย
[เรื่องราว ‘เส้นทางแห่งพระเมสสิยาห์’ ส่งผลเพียงบางส่วน]
มันเป็นผล ‘ความศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาด’ ของเส้นทางแห่งพระเมสสิยาห์
ผมหยิบยืมเรื่องราวซึ่งมีผลพิเศษกับปีศาจจากเอเด็น
[เนบิวลาเอเด็นกำลังบอกให้คุณจ่าย ‘การอ้างอิงเรื่องราว’]
ผมลากไม้กางเขนในอากาศและได้ยินเสียงข้อความ
[เนบิวลาเอเด็นดีใจกับการอ้างถึงเรื่องเล่าของคุณ]
มันน่ารำคาญที่ต้องทำแบบนี้ทุกๆ ครั้ง แต่มันก็ดีกว่าการอ้างสิทธิ์ นอกจากนี้ ผมยังไม่ต้องจ่ายอะไรอีกเพื่อใช้มันในแต่ละครั้ง มันเป็นบริการพิเศษที่เนบิวลาเอเด็นจัดให้
[กลุ่มดาว ‘ผู้พิพากษาเปลวเพลิงปีศาจ’ ดีใจ!]
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณอูรีเอลผู้น่ารัก โชคดี ‘งานเลี้ยง’ จบลงได้ดี
“ลุง… ลุงกลายเป็นคนเคร่งศาสนาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ลีจีฮเยหัวเราะในขณะที่หายใจอย่างหยาบๆ ไหล่ขวาและหน้าท้องของเธอมีแผลถูกแทง “ฉันขอโทษนะ สิบอันดับของกรุงโซลดูแย่มากเลยใช่ไหม?”
“ในตอนนี้มันเป็นเวลาที่ยากลำบากที่สุดของเธอ ไม่ต้องห่วง เธอจะดีขึ้นในอนาคต นิ่งไว้ เดี๋ยวฉันจัดกระดูกที่หักให้”
“ฮะ? อ๊ากกกก!”
ผมคิดว่าผมควรใช้แก่นแท้แห่งป่าเอลเลี่ยน อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่มีไอเท็มเหลืออยู่ในกระเป๋าเสื้อเลย ผมทิ้งมันไว้กับฮันซูยองก่อนตาย
ก่อนที่จะตายในสถานการณ์ที่แปด ผมได้ทำสัญญากับเธอไว้เล็กน้อยและทิ้งไอเท็มไว้กับเธอ งั้น… ก็เหลือทางเดียว
“กระเป๋าโดเกบิ”
ทันทีที่ผมพูดออกมา ผมก็เห็นหน้าจอกระเป๋าโดเกบิอยู่ตรงหน้า
[กลุ่มดาวบางกลุ่มกำลังตั้งคำถามถึงการใช้สิทธิพิเศษตามธรรมชาติของคุณ]
จนถึงตอนนี้ กลุ่มดาวส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าผมได้ใช้กระเป๋าโดเกบิไปแล้วเพราะบีฮยองจะเปิดโฆษณาไว้เสมอ ในตอนนี้มันไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้วเพราะผมเป็นกลุ่มดาว
ผมซื้อแก่นแท้แห่งป่าเอลเลี่ยนในทันทีและป้อนมันให้กับลีจีฮเย
“อ-อุ๊ป!”
“กินแล้วนอนซะ”
“…ขอบคุณนะลุง”
“อืม… ขอบคุณที่ร้องไห้ให้ฉันในงานศพนะ”
“…ฉันจะเป็นลมแล้ว อย่าเพิ่งพูด”
ลีจีฮเยหลับไป ผมอุ้มเธอขึ้นและได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากข้างหลัง
“คุณลุง…?”
ผมเต็มไปด้วยความรู้สึกอันอบอุ่น ผมสามารถบอกได้ว่าเจ้าของเสียงนี้คือใครโดยไม่ต้องหันกลับไปมอง
[อวตารของคุณกำลังมองมาที่คุณ]
ผมไม่สามารถวิ่งมาตรงนี้ได้ถ้ามันไม่ใช่เพราะความรู้สึกนี้ ผมเห็นชินยูซองที่กำลังร้องไห้และคิดว่าพ่อแม่ก็คงจะรู้สึกแบบนี้
“คุณลุง!”
ผมคว้าร่างชินยูซองและกอดเธอเบาๆ “ฉันมาสายไปไหม?”
“คุณลุงมาสายไปหนึ่งสัปดาห์…”
หนึ่งสัปดาห์ บ้าเอ้ย ผมคืนชีพช้ากว่าที่วางแผนไว้
“ไปกันเถอะ ฉันต้องไปหาไอเท็มที่ฝากไว้กับคนอื่น”
***
“…หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปแล้ว ทำไมนายยังไม่มาอีก?”
ฮันซูยองนอนอยู่บนพื้นของปราสาททมิฬและพึมพำกับตัวเอง
มันบ้าไปแล้วที่ทำแบบนี้ในปราสาททมิฬที่มีข้ารับใช้ปีศาจ โชคดีที่ไม่มีข้ารับใช้ปีศาจตัวไหนออกมาหลังจากได้ยินเสียงของเธอ มันเป็นเพราะมีคนจัดการกับปีศาจที่อยู่ใกล้ๆ เธอแล้วพร้อมกับเดินขึ้นทางชั้นบน
แน่นอนว่ามันคือยูจงฮยอค
“ไอ้บ้าตัวเอก”
ฮันซูยองกัดฟันของเธอ
30 นาทีก่อน ฮันซูยองได้เผชิญหน้ากับยูจงฮยอคที่นี่ จากนั้นเธอก็พ่ายแพ้ย่อยยับ
ร่างกายของเธอเจ็บปวดและศีรษะก็วิงเวียน เผ่าปีศาจ? พวกมันไม่ใช่ปัญหา ปีศาจตัวจริงคือยูจงฮยอค
“ไอ้บ้า นายใช้คนแบบนี้ได้ยังไง… คิมทกจา”
เธอไม่อาจเข้าใจได้เลยแม้ว่าเธอจะคิดมากขนาดไหน
ในการจัดอันดับกรุงโซล ยูจงฮยอคอยู่ในอันดับที่สามและฮันซูยองอยู่ในอันดับที่สี่ แล้วทำไมความแตกต่างถึงมากมายขนาดนี้? เหตุผลที่เธอไม่ตายก็เป็นเพราะคำพูดสุดท้ายของเธอ
‘เฮ้! ของพวกนี้คือไอเท็มของคิมทกจา! นายจะขโมยพวกมันไปเหรอ?’
‘…ทำไมคิมทกจาถึงทิ้งของๆ เขาไว้กับเธอ?’
‘เรื่องนั้น… ไม่ใช่ว่าฉันคือคนที่น่าเชื่อถือที่สุดเหรอ?’
‘งั้นฉันจะฆ่าเธอและเอาพวกมันไปเอง’
‘น-นายอยากจะฆ่าฉันงั้นเหรอ? แล้วคิมทกจาจะคิดยังไง?’
ยูจงฮยอคคิดมันอยู่พักหนึ่งก่อนที่สุดท้ายจะปล่อยเธอไป
‘ถ้าเธอพูดถึงเขาต่อหน้าฉันอีก ฉันจะฆ่าเธอจริงๆ’
จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังชั้นสอง ฮันซูยองโกรธเมื่อนึกถึงมันและกรีดร้องออกมา
“ไอ้บ้าเอ้ย… อ๊าาาาา! มังกรอเวจีเปลวเพลิงทมิฬ! นายบอกว่านายคือกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่เหรอ? ทำไมฉันถึงเอาชนะเขาไม่ได้?”
[กลุ่มดาว ‘มังกรอเวจีเปลวเพลิงทมิฬ’ คิดหนัก]
[กลุ่มดาว ‘มังกรอเวจีเปลวเพลิงทมิฬ’ บอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา]
ฮันซูยองถอนหายใจ มันเป็นฉากที่เธอคงถูกเข้าใจผิดว่ามีหลายบุคลิก
“เรื่องใหญ่แล้ว ไอ้บ้านั่นพาน้องสาวขึ้นไปด้วย… มันเป็นการพัฒนาที่คิมทกจาต้องเกลียดแน่ๆ สถานการณ์เป็นแบบนี้ แต่คิมทกจาไปอยู่ที่ไหนกัน?”
[กลุ่มดาว ‘มังกรอเวจีเปลวเพลิงทมิฬ’ กำลังถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณหมายถึง]
“นายมันบ้า ยังไงก็เถอะ ไอ้บ้านั่นเอา ‘บทพิสูจน์’ ทั้งหมดของฉันไป และฉันก็ต้องเริ่มต้นใหม่…”
ฮันซูยองเปิดหน้าต่างสถานการณ์ขึ้น
+
[สถานการณ์หลัก #9 – บทพิสูจน์แห่งปีศาจ]
ประเภท: หลัก
ระดับความยาก: A++
เงื่อนไขการเคลียร์: ตามล่าเผ่าพันธุ์ปีศาจ รวมกับบทพิสูจน์แห่งปีศาจ 9 อัน และวางพวกมันลงไปบนแท่นบูชาที่ชั้นสอง
จำกัดเวลา: 23 วัน
สิ่งตอบแทน: 50,000 เหรียญ
ความล้มเหลว: –
+
ข้ารับใช้ปีศาจทรงพลังมากจนสถานการณ์นั้นค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็เป็นไปได้ที่จะเคลียร์ถ้ามีการร่วมมือกันของอวตาร กองกำลังหลักได้ขยับไปยังชั้นสองแล้ว
เธออาจจะเป็นแรงค์เกอร์ แต่เธออาจถูกแรงค์เกอร์คนอื่นไล่ทันได้ รางวัลของปราสาททมิฬนั้นยอดเยี่ยมมาก ซึ่งหมายความว่าอันดับจะเปลี่ยนไปได้ถ้าเธอช้าไปแม้แต่น้อย
‘ฉันควรทำยังไงดี?’
ในเวลานั้นเอง คนกลุ่มหนึ่งจากด้านหนึ่งของทางเดินก็ดึงดูดความสนใจของเธอ ฮันซูยองคิดว่ามันคงดีกว่า เธอสามารถเอาบทพิสูจน์ไปจากคนพวกนี้ได้…
“ฮันซูยอง!”
ฮันซูยองเห็นใบหน้าของพวกเขาและถอนหายใจ
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร?” มีคนร้องออกมา
ฮันซูยองตอบ “…ฉันแค่กำลังต่อสู้กับพวกข้ารับใช้ปีศาจและได้รับบาดเจ็บ ลีฮุนซึงเองก็เข้าเขาวงกตมาด้วยเหรอ?”
“ใช่แล้ว เธอไหวนะ?”
เขาคือลีฮุนซึงตัวจริง
‘ทำไมชายคนนี้ถึงปรากฏที่นี่?’
สหายของคิมทกจา ลีฮุนซึงก็อยู่ที่นี่ด้วย ไม่ว่าสถานการณ์จะเร่งด่วนแค่ไหน เธอก็ไม่อาจชิงบทพิสูจน์ไปจากตัวละครหลักได้… เอ๊?
“ลีฮุนซึง! อย่าเพิ่งไป!”
เสียงร้องโหยหวนดังมาจากใบหน้าที่สวยงาม คนสี่คนที่มาพร้อมกับลีฮุนซึงไม่ใช่คนที่ฮันซูยองรู้จัก ผู้หญิงคนนั้นตะโกนออกมาอีกครั้ง “ลีฮุนซึง! นายไม่ได้ยินฉันเหรอ? มันอาจเป็นกับดัก!”
“ใช่แล้ว! ถอย! กลับมานี่”
“แต่…”
ลีฮุนซึงสับสนในขณะที่เขามองไประหว่างฮันซูยองและหญิงสาว
ฮันซูยองพูดกับลีฮุนซึง “ปาร์ตี้ของนายเปลี่ยนไปนะ? ทำไมจู่ๆ นายถึงสร้างฮาเร็มขึ้นมาได้?”
“ฉันแยกตัวจากปาร์ตี้ในเขาวงกต…”
ลีฮุนซึงดูมีปัญหา และหญิงสาวอีกคนก็พุ่งมาที่เขาและดึงแขนของเขาเอาไว้
“ทำไมนายถึงไปฟังคนๆ นั้น?”
“บาดแผลเหล่านั้นไม่ได้มาจากการต่อสู้กับข้ารับใช้ปีศาจ ผู้หญิงคนนั้นน่าสงสัย!”
“ใช่แล้ว!”
“ฮุนซึงไร้เดียงสาเกินไป! นายไม่ควรเชื่อใจใครในโลกใบนี้!”
ลีฮุนซึงถูกลากกับไปโดยผู้หญิงคนนั้นด้วยความยากลำบาก
ฮันซูยองใช้ความสามารถในการตรวจจับ อึดใจต่อมา รอยยิ้มร้ายๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮันซูยองในขณะที่เธอเห็นชื่อตรงหน้า
‘…ฉันเห็นอะไรเนี่ย? พวกนี้มัน?’
วิธีที่ผู้คนปรับตัวเข้ากับโลกที่ถูกทำลายนั้นแตกต่างกัน มันมีผู้หญิงที่เชื่อในตัวเองเฉกเช่นจางฮีวอนและลีจีฮเย ในขณะที่ผู้หญิงบางคนใช้ประโยชน์จากคนอื่น วิธีที่น่าสนใจยิ่งกว่า…
“ลีฮุนซึง ฉันไม่คิดเลยว่านายจะมีรสนิยมแปลกๆ แบบนี้?”
“ฮะ?”
“พวกเธอไม่ได้บอกนายเหรอว่าพวกเธอเป็นผู้ชายทุกคน?”
[กลุ่มดาวที่ชอบในการเปลี่ยนเพศประหลาดใจ!]
[กลุ่มดาวที่รักผู้หญิงตกตะลึง!]
สาวๆ ตะโกนอย่างประหลาดใจกับคำพูดของฮันซูยอง
“เธอกำลังพูดอะไรน่ะ?”
“อย่ามาตัดสินพวกเราแบบนี้นะ!”
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคิดว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ชาย อย่างไรก็ตามฮันซูยองรู้จักพวกเธอ พวกเธอคือกลุ่มคนสี่คนที่ใช้สกิลจำแลงกายและเสน่ห์ต้องห้ามเพื่อฆ่าแรงค์เกอร์ที่แข็งแกร่งหรือคนอ่อนแอ
ฮันซูยองจำชื่อกลุ่มนี้ได้
[พิงค์คิดส์]
พวกมันคือชื่อของเกิร์ลกรุ๊ป แต่พวกมันก็เป็นผู้ชายในยุค 40 เธอพูดกับคนพวกนี้
“เฮ้ลุง พวกนายชอบปลอมตัวเป็นเด็กสาวเหรอ? ลีฮุนซึง ถ้านายอยู่กับพวกเขา นายจะถูกหลอกและฆ่าเอาได้”
“ยัยบ้านี่กำลังพูดอะไรน่ะ?”
“ฮุนซึง ไปกันเถอะ! เธอบ้าไปแล้ว!”
บางครั้งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาในหนทางเอาชีวิตรอดที่จะแต่งกายเหมือนเพศอื่น มันมีตัวร้ายที่มากยิ่งกว่านี้อยู่อีก ดังนั้นคนพวกนี้จึงถือกำเนิดขึ้นมา “คิมทกจาอาจจะพูดแบบนี้…”
ฮันซูยองแตกต่างไปจากคิมทกจา
“ฉันต้องกำจัดพวกน่ารังเกียจพวกนี้”
ในสภาพนี้ ลีฮุนซึงจะต้องถูกโจมตีที่หลังศีรษะโดยคนพวกนี้แน่ๆ ความตายของเขาจะส่งผลอย่างรุนแรงต่อสถานการณ์ ร่างแยกจำนวนมากเริ่มล้อมร่างของฮันซูยองไว้
ลีฮุนซึงรีบก้าวออกมา “ธ-เธอจะทำอะไร?”
เธอประกาศ “หลบไป ฉันจะฆ่าพวกมัน”
“พวกเธอไม่ใช่คนเลว”
ลีฮุนซึงไม่หลบ เขาดูไม่ได้ถูกหลงเสน่ห์ แต่เขาก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ ถ้าเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่แหละคือลีฮุนซึง พิงค์คิดส์มองลีฮุนซึงด้วยสายตาที่ประทับใจ
ฮันซูยองพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด “ฉันจะฆ่านายนะถ้าไม่หลบ”
“ฮันซูยอง ฉันรู้ว่าเธอแข็งแกร่ง แต่ใจเย็นลงก่อน ฉันเองก็มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองเหมือนกัน”
“งั้นก็ลองดูสิ”
ร่างแยกพุ่งเข้าใส่ลีฮุนซึงในขณะที่ฮันซูยองพุ่งเข้าหาพิงค์คิดส์
“ตายซะไอ้พวกบ้า!”
“เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”
“ว๊ากกก! ช่วยพวกเราด้วยฮุนซึง!”
ลีฮุนซึงเรียกใช้การแปลงร่างโลหะและเริ่มสังหารร่างแยกของฮันซูยองด้วยความแข็งแกร่งอันมหาศาล ฮันซูยองอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อกับความเสียหายจำนวนมหาศาล
‘เขาคือดาบเหล็กจริงๆ’
เธอสังเกตเห็นว่าพิงค์คิดส์กำลังคิดจะหนี ในสภาพนี้ เธอคงจะพลาดไป มันไม่มีอะไรดีเกี่ยวกับการปล่อยคนพวกนี้ให้มีชีวิตอยู่ในเมื่อเธอสร้างความเป็นศัตรูไปแล้ว
‘ฉันจะทำมัน’
เธอถูกบังคับให้ต้องใช้อาวุธลับ ฮันซูยองยิ้มอย่างขมขื่นให้กับลีฮุนซึง “นายอยากเห็นโชว์ดีๆ ไหม?”
ในวินาทีต่อมา ร่างแยกของฮันซูยองที่ล้อมลีฮุนซึงไว้ก็ถอดเสื้อผ้าออก ผิวขาวของเธอถูกเปิดเผยออกมา ลีฮุนซึงหน้าขึ้นสีในขณะที่เขาหลับตาไว้และขดตัว
“ว๊ากกกกก! นี่มันอะไรกัน?”
ฮันซูยองเหยียบร่างของลีฮุนซึงและทะยานไปข้างหน้า
“สาวเปลือยไง!”
ฮันซูยองบินผ่านอากาศและเล็งมีดสั้นของเธอไปยังด้านหลังของพิงค์คิดส์ที่กำลังวิ่งหนี
“ธ-เธอ…!”
“อ๊ากก!”
‘ยุนวูชุน อายุ 41 ปี ผู้ดำเนินการฟาร์มเหรียญ’
สมาชิกคนอื่นๆ ของพิงค์คิดส์กรีดร้องออกมาเมื่อเห็นเพื่อนที่กำลังจะตาย
“เชี่ย! พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด!”
ฮวังมินยู อายุ 43 ปี ค้ามนุษย์และ… อะไรเนี่ย?’
มีดสั้นของเธอกรีดลำคอของเขา การเปลี่ยนร่างของพิงค์คิดส์ถูกปลดปล่อย เผยให้เห็นตัวจริงของพวกเขา
“ป-ปล่อยฉันไป! ปล่อยฉัน!”
‘บังทักโฮ อายุ 39 ปี เด็กๆ ในตอนที่สาม… แล้วก็!’
ทันใดนั้นเอง มันก็เหลือเพียงพิงค์คิดส์คนเดียว ฮันซูยองขมวดคิ้วเมื่อเธอเห็นคนวัยกลางคนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
‘คนๆ นี้ทำอะไร?’
ฮันซูยองสงสัยอยู่ครู่หนึ่งและกำลังจะสังหารพิงค์คิดส์คนสุดท้าย แต่พลังเวทมนตร์ก็พุ่งมาจากอีกทางและขวางมีดสั้นของเธอไว้
จากนั้นก็มีเสียงที่ชัดเจนดังออกมา “เธอทำผิดพลาดไป”
“…อะไรนะ?”
“เธอไม่ควรฆ่าคนๆ นี้ เขาจำเป็นสำหรับแผนของฉัน”
เธอหันหน้าไปและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ฮันซูยองหัวเราะ “นายมาสายนะ คิมทกจา”
(จบตอน)