Chapter 78 – Black Market Eighth Shopping (2)
ซังจินได้เดินกลับเข้าไปในตลาดใืดอีกครั้งในตอนดึก แต่ว่ามันไม่เหมือนกับชื่อแม้ว่าในตอนนี้มันจะดึกแต่ว่าภายในตลาดก็เต็มไปด้วยแสงไฟ
ซังจินได้เดินผ่านใจกลางตลาดและร้านประมูลไปทางทิศตะวันตก ในที่แห่งนั้นจะมีร้านขายเวทมนตร์หลากหลายร้านตั้งอยู่ อย่างเช่นร้านค้า เวทมนตร์ทั้งห้าสีที่แบ่งออกเป็นสีละร้านค้า ร้านค้าพวกนั้นต่างมีพ่อค้าเป็นครึ่งคนครึ่งมังกรเหมือนกันแต่จะแตกต่างกันที่สีเกล็ดขอพวกเขา
ซังจินได้เดินไปที่ร้านค้าของครึ่งมังกรเกล็ดน้ำเงินเป็นอน่างแรก ในก่อนหน้านี้ในที่ราบสูงซังจินเคยได้รับฉายา ‘จอมเวทน้ำเงิน’ มา
การเลือกร้านค้าที่มีเวทมนตร์ที่มันจะมีผลเกี่ยวข้องกับฉายาของเขามันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
[ร้านค้าเวทมนตร์น้ำเงิน ‘โพรงสีน้ำเงิน’ ดูแลโดยพ่อค้ารอชเนส]
[ร้านค้าแห่งนี้จะขายของเกี่ยวกับเวทมนตร์น้ำเงินทุกชนิด]
เมื่อซังจินได้เข้าไปในร้านค้า มังกรเกล็ดน้ำเงินก็ได้ทักทายเขา
“ยินดีต้อนรับ เจ้ากำลังมองหาสิ่งใดงั้นหรือ?”
“ในตอนนี้ฉันเพียงแค่ต้องการมาดูรอบๆเท่านั้น”
เหมือนกับสีเกล็ดของเขา มังกรน้ำเงินดูจะมีบุคคลิกที่ใจเย็นและสงบนิ่ง
“ทำตามที่เจ้าต้องการเถิด”
ซังจินได้เดิมเข้าไปมองดูหลังสือเวทมนตร์ จากนั้นซาดาเใียร์ก็เริ่มอธิบายออกมา
“เวทย์น้ำเงินจะมุ่งเน้นไปที่ภาพลวงตาและการเปลื่ยนแปลง แต่มันก็ยังมีเวทย์น้ำแข็งและเวทย์สายฟ้าอีกด้วย ดังนั้นมันจึงมีพลังทำลายอยู่บ้าง”
ซังจินได้มองตรวจสอบไปเรื่อยๆที่หน้าปกของหนังสือ
“โล่น้ำแข็ง” เขาเคยเห็นมันมาก่อน และ “ศรน้ำแข็ง” “พายุหิมะ” “ความสับสน” “บิน” และอื่นๆอีกมากมาย มีนักสืออยู่มากมายวางอยู่
“มีอะไรที่นายอยากจะแนะนำบ้างไหม?”
“สิ่งเดียวที่ข้าอยากจะแนะนำท่านคงจะเป็นเจ้านี่..และก็นี่”
ซาดาเมียร์ได้หยิบหนังสือเวทย์ออกมาสองเล่มและส่งมันให้แก่ซังจิน เล่มแรกเป็น ‘เทเลพอต’ และอีกเล่มเป็น ‘โล่มานา’ ซังจินได้วางแผนที่จะอ่านข้อมูลของมันในทันที
แต่ว่าก่อนที่เขาจะทำเช่นนั้น ซาดาเมียร์ก็ได้อธิบายออกมาก่อน
“เทเลพอตเป็นเวทมนตร์ที่ใช้ในการเคลื่อนที่ไปในที่ๆตามองเห็นได้ในพริบตา มันเป็นเวทย์ระดับ 6 ตั้งแต่ที่ท่านต้องการจะค้นหาฆาตกรอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้มันจะช่วยท่านได้มากในการที่จะลดระยะเวลาในการเคลื่อนที่โดยไม่จำเป็น”
“ตำแหน่งที่ฉันมองเห็น? นายหมายความว่าสามารถจะไปที่ไหนก็ได้? ถ้าอย่างนั้นไม่ว่าระเป็นทะเลทรายหรือที่ราบสูงมันก็จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ฉันสามารถจะไปที่ไหนก็ได้ในแผนที่ๆฉันมองเห็นใช่ไหม?”
“อา..แน่นอนว่ามันก็จะใช้มานาที่มากขึ้นตามระยะทางที่ท่านต้องการจะไป ถ้าหากว่ามานาของท่านไม่พอ ท่านก็จะหยุดลงที่ไหนสักแห่งในระยะเส้นทางนั้น”
“หืมม…เข้าใจละ”
จากนั้นซังจินก็ได้หยิบ ‘โล่มานา’ ออกมาเขารู้ดีว่ามันเป็นยังไงเนื่องจากเขาเคยเห็นพวกนักเวทย์ในช่วงท้ายๆใช้มันมาก่อน แต่ว่าซาดาเมียร์ก็ยังคงอธิบายต่อไป
“มันเป็นเวทมนตร์ระดับ 7 ที่จะใช้มานารับความเสียหายแทนพลังชีวิต”
“แต่ฉันก็แทบจะไม่ถูกโจมตีเลยนะ”
“ฉันเข้าใจแล้ว อย่าไรก็ตามในอนาคต…ตั้งแต่ที่ท่านมีดาบที่สามารถดูดซับมานาได้มันจึงเป็นการผสมกันที่ลงตัว”
”ดาบที่ดูดซับมานา’ นั้นมันคือดาบมูนสเปค เขาเข้าใจดี แม้ว่าในตอนนี้เขาจะยังไม่ได้ต้องการมัน แต่ว่าในอนาอตมันก็ไม่แน่ ดังนั้นการเรียนรู้มันเอาไว้ก็เป็นเรื่องดี
เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ซังจินก็หันไปถามกับมังกรเกล็ดน้ำเงิน
“สองอย่างนี้มันราคาเท่าไหร่?”
“เทเลพอตราคา 6300 เหรียญ และโล่มานา 11200 เหรียญ”
“โอ้…”
เขารู้ว่าหนังสือเวทย์ระดับสูงมันแพง แต่เขาก็ไใ่คิดว่ามันจะแพงขนาดนี้ เขารู้สึกว่าเขาควรจะไปเช็คที่ร้านๆอื่นๆก่อนจะซื้อมันทันที
ซังจินได้วางมันกลับไปในที่เดิมทันที
“ฉันจะไปดูที่ร้านอื่นๆก่อนเป็นอย่าง,รก ก่อนที่จะตัดสินใจ”
“ไม่มีปัญหา”
ร้านถัดมาที่เขาเข้าไปเป็นร้านของครึ่งมังกรเกล็ดแดง
[ร้านเวทมนตร์แดง ‘การเผาไหม้สีแดง’ ที่ดูแลโดยพ่อค้าคาฮาล]
[ร้านค้าแห่งนี้จะขายของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์แดง]
“ไฮย่า มนุษย์”
ครึ่งมังกรคนนี้มีลักษณะที่เหมือนกับสีเกล็ดของเขาเช่นกัน
“ไม่จำเป็นจะต้องไปตรวจสอบร้านค้าอื่นอีกแล้ว เวทย์แดงคือที่สุดแล้ว”
เจ้าของร้านคนนี้ดูกระตือรือร้นมาก จากนั้นซาดาเมียร์ก็ได้กระซิบกับซังจิน
“เวทย์แดงจะมุ่งเน้นไปที่พลังทำลายที่สูงส่งอันตราย ส่วนสำหรับคำแนะนำ…”
ซาดาเมียร์ได้ไปหยิบ ‘อินเฟอโน่’ และ ‘โวคาโน่’ ขึ้นมมา เพียงแค่เห็นชื่อปกนี้ซังจินก็รู้ถึงผลของมันทันที จากนั้นซาดาเมียร์ก็อธิบายออกมา
“อินเฟอโน่มันจะสร้างความเสียหายเป็นเส้นตรงและต่อเนื่อง ในขณะที่โวคาโน่มันจะสร้างความเสียหายในระดับที่กว้างกว่ามาก”
“หืมม..เข้าใจละ”
ซังจินหยักหน้ารับและหันไปตรวจสอบหนังสือเล่มอื่นๆ จากนั้นเขาได้ได้จับจ้องไปที่หนังสือเวทย์เล่มหนึ่ง
หนังสือเล่มนี้มีปกที่ดูจะมีความร้อนละลายที่น่าสยดสยองและที่หน้าปกมันเขียนว่า ‘เมเทโอ สไตรค์”
“นี้มัน…?”
ด้วยคำถามนี้
“อา…นั่น…”
ซาดาเมียร์ลังเลใจ แต่แล้วเขาก็ถูกขัดจังหวะ
“นั่นมันเป็นเวทย์ที่ดีที่สุดในร้านเรา”
ครึ่งมังกรเกล็ดแดงได้ตอบออกมาแทน
“มันเป็นเวทย์มี่จะอัญเชิญอุกกาบาตยักษ์ลงมาทำลายทุกๆสิ่ง…ถ้าหากว่าท่านมีเวทย์นี้ ท่านก็สามารถจะกำจัดศัตรูทั้งหมดได้ภายในไม่กี่วินาที”
ซาดาเมียร์ได้อธิบายเพิ่มเติมออกมา
“ใช่แล้ว มันเป็นเวทย์ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างมาก…ถ้าหากว่าท่านได้ใช้มันอย่างถูกวิธี ท่านก็อาจจะสามารถสร้างตวามเสียหายให้แก่ศัตรูได้ทั้งแมพเลยตั้งแต่เริ่มต้นการจู่โจม แต่ว่ามันเป็นเวทย์ระดับ 9…นายท่าน ในตอนนี้ท่านยังคงไม่สามารถจะใช้งานมันได้ และนอกจากนี้ราคามันก็ยังสูงเป็นอย่างมากอีกด้วย”
ซังจินได้ถามออกไปในทันทีโดยที่ไม่ลังเลเลย
“มันราคาเท่าไหร่”
“137540 เหรียญ”
ซังจินส่ายหัวทันทีเมื่อได้ยินราคาของมัน
“อะไรนะ?”
มังกรได้เปล่งเสียงออกมาเพื่อตอบกลับ
“ฉันบอกว่ามันทีราคา 137540 เหรียญ และแน่นอนว่าราคามันไม่สามารถต่อรองได้”
ไอเทมชิ้นมีมันมีราคามากกว่า 100000 เหรียญซะอีก มันเป็นครั้งแรกที่ซังจินเคยได้ยินเกี่ยวกับมัน มันจึงช่วยไม่ได้ที่ซังจินจะรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นซาดาเใียร์ก็เสริมขึ้นมาอีก
“หนังสือเวทมนตร์มันจะมีราคาสูงมากขึ้นตามระดับของมัน ด้วยเวทย์ระดับ 9 มันเป็นเวทย์ระดับที่ถล่มเมืองได้ดังนั้นมันจึงช่วยไม่ได้ที่ราคามันจะสูงเช่นนี้”
แม้ว่าราคาบางอย่างมันจะสูงไปบ้างมันก็จะไม่เป็นไร แต่ว่า 120000 มันอยู่สูงเกินไป แม้ว่าสำหรับซังจินที่สามารถจะเก็บเงินได้เป็นอย่างมากในแต่ละรอบกสรจู่โจม แต่เขาก็จะต้องใช้ความพยายามในการเก็บเงินถึง 3-4 รอบถึงจะเก็บพอซื้อมันได้
“โอเค…ร้านต่อไป”
“อะไรนะ? นายจะไม่ซื้ออะไรเลยหรอ?”
ซังจินได้ทิ้งครึ่งมังกรเกล็ดแดงไว้เบื้องหลังและเข้าไปในร้านถัดไป มันเป็นร้านเวทมนตร์ขาวที่ถูกดูแลด้วยครึ่งมังกรเกล็ดขาว มันเป็นสถานที่ๆซังจินตั้งใจจะมาตั้งแต่ต้น
[ร้านขายเวทย์มนตร์ขาว ‘ท้องฟ้าสีขาว’ ที่ถูกดูแลโดยพ่อค้ามาเซส]
[ร้านค้าแห่งนี้จะขายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ขาว]
มังกรเกล็ดขาวได้มองมาอย่างสง่างาม
“เจ้ากำลังมองหาอะไรนักล่า ลองใช้เวลาของเจ้าค้นหาดู”
เสียงของเขาต่ำและสง่างาม อย่างแรกซังจินทำเลยคือยื่นมือไปหาเวทย์ล่องหน เขาไม่ต้องใช้เวลาหามันนานนัก เขาได้หยิบมันและถามขึ้น
“ระดับของมันคือ?”
หลังจากที่ได้ยินราคาหลักแสนในก่อนหน้านี้ อน่างแรกที่เขาต้องการทำคือตรสจสอบราคาก่อน
“มันเปนเวทย์ระดับ 5”
มันไม่น่าจะมีราคาแพงมาก ซังจินได้หยิบหนังสือเล่มนี้เอาไว้และตรวจสอบหนังสือเล่มอื่นๆต่อไป
“ฉันก็ต้องการเวทย์มี่เกี่ยวกับการฟื้นฟูเช่นกัน…”
แม้ว่าซังจินจะไม่ได้ต้องการใช้มันในตอนนี้ แต่ว่ามันก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่แบบในการจู่โจมที่แล้ว และเขาก็ไม่สามารถจะเรียกใช้การสถิตของฮัวโต๋ได้ตลอดเวลา
แม้ว่าผลของมันอาจจะไม่น่าประทับใจมาก แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ซาดาเมียร์ได้หยิบหนังสือเวทย์มาเล่มหนึ่งและส่งมันให้ซังจิน
มันเป็นเวทย์ฟื้นฟูที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ‘ฮีล’ ซังจินรับมาในขณะที่ถามออกไป
“ระดับหละ?”
“ระดับ 3 มันเป็นเวทย์ที่ระดับไม่สุงนัก แต่ว่าผลของมันก็จะขึ้นอยู่กับพลังเวทย์ ดังนั้นถ้าหากว่าผู้ที่มีพลังเวทย์ไม่มากพอก็จะใช้มันได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ”
“หืมม นายพูดถูก”
ซังจินหยักหน้ารับและตรวจสอบไอเทมอันอื่นๆต่อ
“มีอะไรที่ฉันพอจะใช้ลบสถานะผิดปกติได้ไหม?”
“เอาเป็นอันนี้ละกัน”
ซาดาเมียร์ได้ส่งหนังสือมาให้ซังจินอีกเล่มหนึ่งที่ใีชื่อว่า ‘ชำระล้าง’
“ชำระล้างมันเป็นเวทย์ที่ใช้ในการระษาสถานะผิดปกติ มันจะลบคำสาป ความสับสน เสน่ห์ และ ตาบอด”
“แล้วเกี่ยวกับพิษหละ?”
“ท่านสามารถจะได้รับเวทมนตร์เกี่ยวกับมันที่นั่น”
ซาดาเมียร์ได้ชี้ไปที่ร้านค้าสีเขียว
“โอเค ฉันต้องการทั้งหมดนี้ สามอันนี้รวมกันมันมีราคาเท่าไหร่หละ?”
“7520 เหรียญท่านนักล่า”
7520 เหรียญ ราคาเช่นนี้มันมากพอที่จะใช้ซื้อไอเทมในตำนานได้หนึ่งชิ้นเลยทีเดียว
“โอเปอเรเตอร์จ่ายเงิน”
ลูกบาศก์ได้ลอยออกมาและทำการจ่ายเงิน จากนั้นซังจินก็กล่าวกับครึ่งมังกรเกล็ดขาว
“ช่วยส่งไอเทมไปที่ลูกบาศก์ด้วย”
“รับทราบ”
ในขณะที่ลูกบาศก์กำลังจ่ายเงินและรับสิ่งของมา ซังจินก็ได้สังเกตุไปเห็นหนังสือเวทย์เล่มหนึ่งที่มีหน้าปกสวยงาม มันมีชื่อว่า ‘การคืนชีพ’ ซังจินได้หยิบมันขึ้นมาในทันที
“คืนชีพ…มันเป็นไปได้?”
มันเป็นความสามารถที่น่าอัศจรรย์ที่ได้ไปถึงใกล้เคียงกับขอบเขตของพระเจ้า ซังจินได้เรียกหน้าต่างข้อมูลออกมาในทันทีอย่างตั้งใจ
หนังสือเวทมนตร์ – การคืนชีพ
เวทมนตร์ขาวระดับ 9
ชุปชีวิตคนที่ตายกลับมา สามารถใช้ได้ภายใน 3 นาทีเท่านั้นหลังจากที่เสียชีวิต
ซาดาเมียร์ได้พูดออกมาจากด้านข้าง
“มันเป็นไปได้…ใช่แล้ว แต่เพื่อที่จะทำเช่นนั้น ท่านก็จำเป็นจะต้องมีพลังเวทย์ที่สูงมาก ด้วยระดับพลังเวทย์ของท่านในปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้งานมัน”
‘พลังเวทย์ของฉัน?’
เมื่อใดก็ตามที่เขาใช้เวทย์ไฟหรือโซ่สายฟ้า เขาสังเกตุพลังที่เพิ่มขึ้นตามสเตตัสที่สูงขึ้น แต่เขาก็ไม่เคยคืดสนใจเกี่ยวกับะลังเวทย์มากนัก ส่วนใหญ่เขาจะใช้แต้มส่วนเกินที่เหลือไปอัพมัน
ซังจินได้ถามกับโอเปอเรเตอร์
“โอเปอเรเตอร์ระดับพลังเวทย์ปัจจุบันของฉันคือเท่าไหร่?”
[3119 และ 3587 หลังจากที่คำนวนโบนัสสเตตัส]
จากนั้นซังจินก็หันหน้าไปกลับถามซาดาเมียร์
“ฉันจะต้องใช้พลังเวทย์เท่าไหร่?”
ซาดาเมียร์ได้ส่ายหัวของเขา
“ความจริงแล้ว ข้าก็ไม่รู้เช่นเดียวกันเกี่ยวกับระบบการคำนวนพลังเวทย์ ดังนั้นข้าจึงไม่ทราบแน่ชัด…แต่ว่าจากการสังเกตุการเกี่ยวกับพลังเวทของข้า ข้าจึงคาดว่ามันน่าจะอยู่ที่ 20000”
พลังเวทย์ 20000 สเตตัสที่สูงที่สุดของเขาคือความคล่องแคล่วและมันก็มีเพียงแค่ 9000 เท่านั้น การที่เขาจะเพิ่มให้พลังเวทย์มีถึงขนาดนั้นคงจะใช้เวลานานมาก
“เวทมนตร์ระดับ 9 มันเป็นเวทมนตร์ที่มีพลังเทียบเคียงกับพลังระดับพระเจ้าเลย แม้ว่าพลังเวทย์ของท่านจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว…แต่ท่านก็ไม่สามารถจะใช้มันได้ในทันที แถมยัง…”
ซังจินรู้ในสิ่งที่เขากำลังจะพูดต่อไปแน่นอน
“เพราะว่าเวทย์ระดับ 9 …มันมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก”
ซังจินได้ถือหนังสือ ‘การคืนชีพ’ และเข้าไปถามกับครึ่งมังกรเกล็ดขาว
“สิ่งนี้ราคาเท่าไหร่?”
“141857 เหรียญ”
“แค่กๆ”
ซังจินได้ไอออกมาทันทีที่ได้ยินราคา ราคาของมันแะงยิ่งกว่าเมเทโอ สไตรค์ซะอีก
“อา เข้าใจแล้ว”
ซังจินได้หันหน้าไปที่ร้านเวทมนตร์ต่อไปทันที แต่ก่อนที่เขาจะเดินไป เขาก็ยังมีคำถามอยู่
“เฮ้…แล้วเวทย์ระดับ 9 ของเวทย์น้ำเงินคืออะไรงั้นหรอ?”
ซาดาเมียร์ได้มองมาที่ซังจินอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะให้คำตอบกลับมา
“พูดตามตรง…มันเป็นเวทมนตร์ที่ข้าได้พัฒนาขึ้นมาในร้อยปีที่ผ่านมาผ่านในตะเกียงของข้า…”
“มันคืออะไร?”
เมื่อซังจินได้ยืนกรานที่จะรู้ ซาดาเมียร์จึงตอบกลับมา
“มันเป็นเวทย์มนตร์ย้อนเวลา”
“หืมมม?”
“ในขณะที่ท่านจินตนาการว่า มันเป็นเวทย์ที่ใช้ในการกลับไปในช่วงเวลา แต่ว่า…ข้าหมายถึง…”
ซังจินไม่ได้สนใจฟังที่ซาดาเมียร์พูดเลย เขาได้เข้าไปในร้านค้าสีน้ำเงิน และถามพ่อค้าในทันที
“ที่นี่มีเวทมนตร์ย้อนเวลาขายไหม?”
มันช่วยไม่ได้ที่ครึ่งมังกรเกล็ดน้ำเงินจะเบิกตากว้างกับคำถามนี้ และหลังจากนั้นเขาก็ไปค้นที่กองหลังสือ เขาได้หยิบหนังสือแฟนซีออกมาและส่งมันให้กับซังจิน
ตามที่คาดไว้ ที่หน้าปกได้มีคำว่า ‘ย้อนเวลา’ เขียนเอาไว้ ซังจินได้มองย้อนกลับไปด้านหลังเขาและถามกับซาดาเมียร์ที่กำลังเดินตามเข้ามา
“กลับไป? ภานในเวลา? แล้วไกลแค่ไหน?”