บทที่ 179: แม้แต่หมออัจฉริยะด้านศัลยกรรมกระดูกก็ไม่สามารถรักษาลูกของท่านได้!
โรงพยาบาลเมืององุ่นเขียว
เสี่ยวเจ้อกำลังรออยู่ข้างนอกห้องพักอันหรูหราในโรงพยาบาล เขายืนขาไขว้กัน และสูบซิการ์ในปาก ก่อนที่จะพ่นควัญออกมา
พยาบาลผู้เดินผ่านมา เห็นท่าทางแบบนั้น จึงเดินเข้าไปหาเขาและตำหนิเขา “คุณคะ นี่เป็นเขตห้ามสูบบุหรี่”
“เธอตาบอดหรือ นี่ดูเหมือนบุหรี่ไหมหละ?”
“เจ้านายของฉันกำลังสูบซิการ์ที่นำเข้าจากคิวบา เธอควรคิดว่าตัวเองโชคดีที่มีโอกาสได้สูดควัญของมันสิถึงจะถูก!” ชายร่างการกำยำพร้อม
กับหนวดที่โค้งขึ้นเดินเข้ามา
พยาบาลขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินชายคนนั้นตำหนิเธอด้วยเสียงที่น่ารังเกียจ เธอตำหนิเขาว่า “ไม่ว่าคุณจะสูบบุหรี่อะไรก็ตาม คุณก็ไม่ได้รับอนุญาต
ให้สูบในนี้ คุณต้องถูกปรับ 5,000 หยวน!”
ชายร่างกำยำพร้อมหนวดทรงโค้งของเขาเริ่มคลุ้มคลั่ง “มารดามันเถอะ! แม้แต่หัวหน้าของเธอยังไม่กล้าพูดกับเจ้านายของเราแบบนี้ด้วยซ้ำ
แล้วเธอเป็นใคร ฉันจะสั่งสอนเธอเอง ตาย!”
“ฉัน … ” พยาบาลที่ถูกขู่ใบหน้าซีดลง เธอก้าวถอยหลัง
แต่ทว่า ผู้ชายที่มีหนวดไม่ยอมปล่อยให้เธอจากไป เขายกมือขึ้นหมายที่จะตีเธอ …
“อู่ ถอยไป!”
เสี่ยวเจ้อพูดอย่างกระทันหันว่า “อาวุโสฟง เป็นอัจฉริยะด้านศัลยกรรม เขากำลังรักษาลูกชายของฉัน ฉันกำลังอารมณ์ดี จะปล่อยมันไปก่อน”
อู่พยักหน้า หันไปหาพยาบาล และพูดว่า “โชคดีด้วย เธอเพิ่งรอดพ้นจากความตาย เพราะเจ้านายของฉันกำลังอารมณ์ดีอยู่ ออกไปซะ อย่ามา
ให้ฉันเห็นหน้าอีก!”
“พวกคุณมันน่ารังเกียจที่สุด!” ริมฝีปากของพยาบาลสั่นสะท้านด้วยความโกรธ แต่เธอก็ไม่กล้าว่ากล่าวชายคนนั้นอีกต่อไป เธอทำได้เพียงเดิน
จากไป
“เจ้านายมีความเคลื่อนไหวภายในห้อง!” อู่พูดอย่างตื่นเต้น
“เอาล่ะ … ” เสี่ยวเจ้อยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น ทิ้งซิการ์ลง และค่อยๆ ปัดควันออกไป หน้าตาของเขาในตอนนี้ให้ความรู้สึกสุภาพ และอ่อนโยนมาก
ยิ่งขึ้น
เขาทำเช่นนี้เพราะอาวุโสฟงเพิ่งจะเดินออกจากห้อง
เสี่ยวเจ้อก็เป็นเพียงคนที่คอยแต่รังแกผู้ที่อ่อนแอ แต่กลัวเกรงผู้ที่เหนือกว่า
เขาทำหน้าเย่อหยิ่งในตอนที่ข่มขู่พยาบาล แต่ทว่าตอนนี้ เขากลับทำตัวเหมือนพวกขี้แพ้
“ครืนนน …”
ประตูห้องผู้ป่วยถูกผลักออก
กลุ่มหมอเสื้อสีขาวเดินออกมา แต่พวกเขาไม่ได้เดินออกไป พวกเขาทำเพียงยืนอยู่นอกประตูใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว
กลุ่มคนเหล่านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกของเมืององุ่นเขียว
อาวุโสฟงเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้พวกเขายังกล้ายืนอยู่ที่นี่
“อาวุโสฟง! เป็นอย่างไรบ้าง” ราวกับเด็กช่างประจบ เสี่ยวเจ้อเดินไปข้างหน้า และโค้งคำนับ ก่อนจะถามออกมา
ฟงเทียนชัวมีอายุประมาณเจ็ดสิบปี ผมและเคราของเขาเป็นสีขาวหมดแล้ว แต่ทว่า เขาก็ยังคงมีพลังมากเหลือเฟือ เขาดูคล้ายเทพเซียนในซีรี่ส์
ทีวี
“บอสเสี่ยวเจ้อ เห็นที่ชื่อของฉันจะไม่อาจใช้ได้แล้ว ฉันไม่อาจช่วยอะไรลูกชายคุณได้เลย ฉันไม่สมควรใช้ชื่อหมออัจฉริยะด้านกระดูกอีกต่อไป
… ” ฟงส่ายหัว ความเหนื่อยหน่ายเต็มอยู่ในดวงตา
“อะไรนะ?” เสี่ยวเจ้อไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
“อาวุโสฟง คุณพูดอะไร?”
“ฉันต้องขอโทษด้วย ไม่มีอะไรที่ฉันจะสามารถทำได้ อาการบาดเจ็บของลูกชายคุณ… บางทีคุณควรปรึกษาแพทย์ที่มีความสามารถมากกว่าฉัน
… ” ฟงมีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่บนใบหน้าของเขา
การที่ต้องออกมาพูดเรื่องนี้ซ้ำ เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมาก
“อาวุโสฟง คุณต้องล้อเล่นแน่ๆ” เสี่ยวได้ยินชัดเจนสองรูหูแต่เขาก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้
“คุณเป็นหนึ่งในศัลยแพทย์กระดูกที่เก่งที่สุดในประเทศจีน! ไม่เคยมีกรณีไหนที่คุณไม่สามารถรักษาได้ … ”
“ฉันจริงจังเสมอ คุณคิดว่าฉันจะแต่งเรื่องตลกขึ้นมาเพื่อทำให้ชื่อเสียงของตัวเองต้องมัวหมองไปทำไม? ถ้าฉันสามารถรักษาลูกชายของคุณได้
ฉันก็ทำไปแล้ว!”
สมญานามของเขาในฐานะหมอศัลยกรรมกระดูกที่มีทักษะสูงที่สุดในปัจจุบันได้ถูกทำให้มัวหมองแล้ว
แม้สิ่งนี้จะทำลายวันของเสี่ยวเจ้อ แต่เสี่ยวเจ้อก็ไม่อาจจะนิ่งเฉยได้
ต่อหน้าแพทย์ผู้มีพรสวรรค์ เสี่ยวเจ้อไม่อาจจะทำให้เขาโกรธได้
“อาวุโสฟง คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น … ” เสี่ยวเจ้อรู้ดีว่า คำพูดของเขาได้ผิดพลาดไป เขาลดเสียงของเขาลง และถาม
ว่า “ได้โปรด … ฉันอยากจะรู้ว่า มีอะไรผิดปกติกับลูกชายของฉัน?”
“กระดูกสันหลังของลูกชายของคุณ บิดเบี้ยวไปถึงที่หนึ่งร้อยแปดสิบองศา เส้นเอ็นของเขาเองก็คดเคี้ยวอย่างสมบูรณ์ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบ
นี้มาก่อนในชีวิต!
“อะไร … แล้วพวกเราควรทำอย่างไร … ” เสี่ยวเจ้อตกใจใบหน้าของเขาซีดเผือก “อาวุโสฟง บอกฉันที่ว่า ควรจะทำอย่างไร ฉันมีลูกชายเพียง
คนเดียว เขาเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของฉันที่จะสืบทอดสายเลือดตระกูลของฉัน … อวัยวะเพศอยู่ด้านหลัง … แล้วเขาจะสามารถ … ได้
อย่างไร”
“อะแฮ่ม มีอยู่หนึ่งวิธีที่จะช่วยลูกชายของคุณได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณยินดีที่จะทำหรือไม่” ฟงลังเลใจ
“บอกฉัน ฉันจะพยายาม ไม่ว่าอะไรก็ตาม!” เสี่ยวเจ้อหมดหนทางแล้ว
ฟงพยักหน้า และกล่าวว่า “ใครที่แขวนกระดิ่งบนคอเสือก็ต้องแก้ด้วยตัวเอง ทางเลือกเดียวของคุณก็คือ การขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ทำให้
ลูกชายของคุณเป็นแบบนี้!”
“คุณต้องการให้ฉันไปขอให้ไอ้ลูกกะหรี่ เฉินเสี่ยวเป่ยช่วยเหลือ?” เสี่ยวเจ้อเสียงดัง
“ฉันเข้าใจ การขอความช่วยเหลือจากศัตรูนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่คนที่ทำร้ายลูกชายของคุณก็เป็นคนมีพรสวรรค์มากเช่นกัน! วิธีการของเขาไม่
ได้ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บกับลูกชายของคุณ นี่เป็นส่วนผสมของศิลปะการต่อสู้และความชำนาญด้านการแพทย์อันน่าประทับใจมากเลยที
เดียว นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครจะสามารถรักษาลูกของคุณได้อีก!”
“ไม่มีทางอื่นแล้วเหรอ?” ใบหน้าของเสี่ยวเจ้อเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ราวกับพึ่งกินเผือกร้อนเข้าไป
“ฉันได้พูดในสิ่งที่ฉันสมควรพูดไปแล้ว ดังนั้น ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คุณต้องเลือก ว่าจะปกป้องศักศรี หรือเชื้อสายของคุณเอาไว้” ฟงเดินจากไป
พร้อมกลุ่มหมอทางด้านหลัง
เขาทิ้งเสี่ยวเจ้อเอาไว้ให้ครุ่นคิดด้วยตัวของเขาเอง
…
ณ สถานีตำรวจเมืององุ่นเขียว
ห้องสอบปากคำหมายเลขสาม
“ผู้ชนะเป็นกษัตริย์ และผู้แพ้ต้องอุ่นเตียง นายคิดว่าฉันไม่รู้หรือว่า นายกำลังพยายามจะทำอะไร? ถ้านายชนะ ฉันจะต้องอุ่นเตียงให้นาย แต่ถ้า
ฉันชนะนายก็จะมาอุ่นเตียงให้ฉัน อย่าหวังจะหลอกฉันซะให้ยาก!”
“ฮี่ฮี่ คำพูดที่ว่าสาวหน้าอกใหญ่มักจะไร้สมองนี่คงจะผิดสินะ!” เฉินยิ้มกว้างจ้องมองไปที่หน้าอกอันน่าภาคภูมิใจของลั่ว
“นายมันน่าขยะแขยง นายกล้าดูหน้าอกของฉันได้อย่างไร ฉันจะควักลูกตานายออกมา!” ลั่วเข้าโหมดราชินีปีศาจน้ำแข็ง และพูดอย่างเย็นชา
“โอเค ฉันไม่มองก็ได้!” เฉินคิดกับตัวเอง: บีบมันฉันก็เคยมาแล้ว ใช่ว่ามองสองสามครั้งจะเสียหายซักหน่อย
“เอาอย่างนี้ ถ้าฉันชนะ เธอจะต้องจูบฉัน แต่ถ้าฉันแพ้ ฉันจะทำทุกอย่างที่เธอต้องการ” เฉินหัวเราะ
“นายเป็นบ้าไปแล้ว นายคิดว่านายจะชนะ?” ลั่วโต้กลับว่า “เอาเถอะ เรามาเล่นกัน ถ้านายแพ้ ฉันจะให้นาย … ”
แต่ก่อนที่เธอจะพูดเสร็จ ก็มีคนผลักที่ประตูห้องสอบสวนเข้ามา
ตำรวจหนุ่มคนนั้นพูดว่า “ผู้ตรวจการ เสี่ยวเจ้อมาที่นี่!”
==========================
ชอบก็ฝากกด like เพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/xiaozhushuohua/
สนใจโดเนตอ่านก่อนใคร https://www.storynovelclub.com