GMC ตอนที่ 167 กวาดล้าง
“อะไรตาย?”
เหลาซูมองเขาด้วยท่าทางที่ตกใจ
“คนที่ทำภารกิจหาไวน์เก่าแก่” เฮยฮูหัวเราะอย่างขมขื่น “ไม่รวมคนสองคนก่อนหน้า ที่เหลือ….. ตายหมดแล้ว เตาปาสังหารพวกเขา”
เหลาซูตกใจ ชายหนุ่มหลายคนข้างๆเขา เริ่มเหงื่อซึมออกมา พวกเขามองกันและกัน ก่อนชื่นชมยินดีกับโชคของพวกเขา
นักล่ารุ่นเก่าๆ พวกเขาย่อมรู้ดี
แม้พวกเขาจะเป็นเวัยรุ่นในเรื่องความแข็งแกร่งพวกเขาไม่ได้ขาด แต่ในเรื่องของประสบการณ์ มันต่างกันมากมาย
“เกิดอะไรขึ้น”
เหลาซูถามถึงรายละเอียด
เฮยฮูลังเลใจสักพักก่อนที่จะพูดอย่างช้าๆ “หลังจากที่พบกับคุณ บางคนที่ไม่ได้ฟังคำแนะนำของคุณมุ่งหน้าต่อไป จากนั้นเตาปาส่งคำเตือน หลังจากที่ได้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของปืนไรเฟิล คนเหล่านั้นก็ยอมแพ้ในที่สุด ”
“แต่คุณก็น่าจะรู้ว่า มันย่อมมีบางคนที่ไม่กลัวความตาย เมื่อมีคนยังเดินต่อไป เตาปาได้หงุดหงิดเพราะพวกเขาและเริ่มที่จะโจมตีพวกเขาอย่างจริงๆ ในพริบตาผู้คนนับสิบคนถูกยิงและบาดเจ็บ แต่คุณก็รู้ภารกิจนี้เป็นที่ต้องการแค่ไหนในตลาดมืด แม้จะเป็นชื่อเสียงของเตาปาก็ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดคนโลภเหล่านั้น ดังนั้นแม้ว่าหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็ยังคงวิ่งไปที่หมู่บ้านเฟิงซาน ”
เฮยฮูแสดงให้เห็นถึงความกลัว เมื่กำลังจะถูกต่อ “ในตอนนั้นเตาปาก็โกรธเกรี้ยว คนที่ยืนยันที่จะเข้าไปให้ได้ … ไม่มีใครออกมาอย่างมีชีวิต เพียงนัดเดียว 1 นัดจากนะยะไกลและจากนั้นพวกเขาทั้งหมด …ตาย! เมื่อฉันวิ่งไปที่นั่น ฉันเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าฉัน”
“ปัง … ”
ใบหน้าเฮยฮูค่อนข้างซีดเผือก “ตาย ชายหนุ่มคนนั้นเสียชีวิตในทันที เลือดสาดกระเด็นมาโดนตัวฉัน ฉันกลัวมากจนรีบวิ่งหนีออกมา เตาปาเขาเห็นฉัน แต่เขากลับปล่อยฉันไปและไม่ได้ยิง ถ้าไม่เช่นนั้นฉันคงได้ไม่มายืนอยู่จุดๆอย่างมีชีวิต”
เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมด ทุกคนเหมือนดูท่ามกลางหิมะ
เหลาซูกลืนน้ำลาย สิ่งที่เฮยฮูเล่าม มันคล้ายกับประสบการณ์ที่เขาเจอมาอย่างมาก
“ฉันจำได้ว่าเตาปาไม่ได้ทรงพลังถึงขนาดนี้ แม้กระทั่งปืนไรเฟิลของเขาที่เขาปรับแต่งมันก็มระยะยิงเพียง 3000 เมตรเท่านั้น แต่ครั้งนี้กลับถึง 5000 เมตร นอกจากนี้ในป่ายังมีอุปสรรคมากมาย แต่เขาก็สามารถยิงheadshotเป้าหมายของเขาได้ ฝีมือของเตาปามันพัฒนาขึ้นอย่างมากจริงๆ”
“ใช่” เฮยฮูถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก “ตามข่าวลือ เตาปาได้เข้าร่วมองค์กรลึกลับบางองค์กร ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ แต่พอได้มาเจอในสถานการณ์เช่นนี้ ฉันเกรงว่ามันจะเป็นความจริง หลังจากที่สร้างชื่อมานานในเจียงฮี ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ!”
“จริงของแก”
เหลาซูยังคงถอนหายใจ แล้วเขาเมื่อไรจะประสบความสำเร็จบ้าง
ชายหนุ่มสองสามคนยังสับสน “ท่ายผู้อาวุธโสทั้งสอง นี้ไม่ใช่ว่าเตาปาเป็นแบ็ค 1 ในเจียงฮีหรอ ทำไมถึงว่าเขาพึ่งประสบความสำเร็จ? ”
“อา”
เหลาซูส่ายหัว “หมายเลขหนึ่ง? เฉพาะภายในนักล่าสามัญ ถ้าเขาแข็งแรงเขาจะมาเป็นนักล่าทำไม ปืนไรเฟิลได้ถูกสั่งห้ามโดยสมาคมความสามารถต้น แม้จะมีปืนไรเฟิลแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเอสเปอร์ที่แข็งแกร่ง มันก็จะเป็นเพียงเรื่องตลก แม้มันอาจจะดูมีเกียรติ แต่พวกเราก็มีเส้นทางของพวกเรา โดยไม่พึ่งความสามารถต้นกำเนิด แต่ด้วยอาศัยอาวุธเพื่อให้บรรลุในสิ่งที่หวังและความมั่งคั่ง แล้วไงล่ะ”
“ทำไมเตาปาจึงอัพเกรดอาวุธของเขา? ก็เพราะสิ่งเดียวที่เขาสามารถปรับปรุงก็คืออาวุธของเขา ศักยภาพของเขามันมาถึงจุดตันแล้ว โดยไม่มีความสามารถต้นกำเนิดไม่ช้าก็เร็วเขาจะถูกเขี่ยออก แต่ในตอนนี้เตาปาประสบความสำเร็จในที่สุด ด้วยความแข็งแกร่งนั้นกว่าได้ว่าองค์กรลึกลับนั้นต้องทำสัญญาบางอย่างกับเขา ถึงทำให้เขาพัฒนาได้ถึงขนาดนี้หรือบางทีอาจจะทำให้เขามีความสามารถต้นกำเนิดก็เป็นได้”
“สำหรับการเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของเมือง?”
“มันเป็นเพียงเรื่องตลกต่อหน้าคนอื่นๆ”
เหลาซูหัวเราะและมองไปที่ชายหนุ่มคนอื่นๆ “เนื่องจากคุณมีพความสามารถต้นกำเนิด ฝึกให้หนักเข้าไว้ในวันนึงพวกคุณจะยิ่งใหญ่กว่าเรา นี่คือยุคของความสามารถต้นกำเนิด เฉพาะคนที่มีความสามารถต้นกำเนิดเท่านั้นที่จะหัวเราะเป็นคนสุดท้าย”
เฮยฮูพยักหน้าใน เขาก็คิดเช่นเดียวกัน
คนที่ทำงานอยู่ในแนวหน้าของวงการนักล่าโดยทั่วไปจะเป็นคนที่อยู่ในชุดแรกๆของยุค อย่างเช่น Li เสี่ยวรุ่ เขาไม่มีความสามารถต้นกำเนิด ถึงเหลาซูจะแข็งแรงมาก แต่ระดับของเขามันก็เป็นช่วงกลางๆ
เขาแค่ปล่อยความรู้สึกที่ดูแข็งแกร่งและอันตรายเท่านั้น
แม้ว่ามันจะแตกต่างจากความสามารถต้นกำเนิด แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เขานับไม่ได้ว่ามันได้ช่วยชีวิตเขาไว้กี่ครั้ง แต่คนอื่นอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนเขา สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือการฝึกฝนร่างกาย การซื้ออาวุธที่ทรงพลังและการใช้ยาเพิ่มความแข็งแกร่ง
แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังความพยายามเหล่านี้คือความโศกเศร้า
“ถ้าเตาปาประสบความสำเร็จได้ เราก็สามารถทำได้เช่นกัน!” สายตาของเหลาซูแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่แน่วแน่เมื่อมองเฮยฮู “จงจำไว้ในวันนี้มันเป็นชื่อเสียงของเตาปา และในวันต่อไปจะเป็นวันของฉัน”
“ฮ่าฮ่า!
เฮยฮูหัวเราะดัง “ไปกันเถอะ ไปบาร์กัน! จะไม่มีใครกลับบ้านจนกว่าเราจะเมา ชื่อเสียงจากการต่อสู้ในวันนี้ของเตาปามันดังเกินไปแล้ว เราจะเรียนรู้จากเตาปา และเคารพเตาปา ”
“เคารพเตาปา”
หลังจากร้องตะโกน พวกเขาก็เดินออกไป
ในเวลานี้พวกเขาไม่รู้ความจริงว่าเตาปาที่พวกเขาเคารพ ได้ตายลงตั้งแต่อยู่ในป่าใกล้หมู่บ้าน เฟิงซาน
“ปัง”
เสียยงปืน ซูฮ่าวกำลังนอนรายอยู่บนพื้นขณะส่องถือปืนไรเฟิล เจาเฝ้าดูคนที่กล้าเดินเข้ามา
“ตูม”
หลังจากเล็งและยิง ลูกแตกโมแตกกระจาย
หัวแตก
ซูฮ่าวหัวเราะ เขาส่องกล้องหมุนซ้ายและขวา เป้าหมายทั้งหมด เคลียร์
“ในที่สุดก็จบสักที”
ซูฮ่าวถอนหายใจ เขาจะจดจำไว้ในใจ ในวันนี้เขาได้ประเมิณความโลภของมนุษย์น้อยเกินไป
ภารกิจนี้มาหลายคนรับแล้ว
นักล่าเกือบทั้งหมดที่วิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน จากคราวมันไม่น้อยกว่า 100 คน
แม้กระทั่งตอนที่เขากำลังต่อสู้กับเอปน้ำแข็งใต้ดิน เขาก็ยังต้องระมัดระวังไม่ให้ใครเข้ามาใกล้หมู่บ้าน
นั่นคือเหตุผลที่ภารกิจควระเสร็จสิ้นภายใน 2 วัน ต้องยืดเยื้อเป็น 5 วัน ไม่กี่วันนี้อาหารแต่ละมื้อของเขาเป็นเพียงอาหารแห้งและน้ำแร่
“ตอนนี้คงหมดแล้ว”
ซูฮ่าวเก็บปืนไรเฟิลของเขาขณะเผยรอยรอยยิ้ม แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยาก แต่ผลประโยชน์ก็มีมากเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นการใช้ปืนไรเฟิลประบอกนี้
ตอนแรกซูฮ่าวไม่สามารถยิงได้อย่างแม่นยำนัก แทบทุกครั้งที่คำนวณเขาหมักจะยิงไม่ถูก เขาเล็งไปที่หน้าอกและเปิดใช้งานการสร้างแบบจำลองภูมิประเทศ ในแต่ละครั้งก็มักจะเบี่ยงเบนไปจากเส้นทางที่เขาต้องการ ถึงมันจะคำนวณไม่ถูกต้องเท่าไร แต่มัมก็เบี่ยงเบนไปเพียงไม่กี่เมตร
โชคดีที่ศัตรูเห็นพลังของปืนไรเฟิลแล้วถอยกลับไป
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคนที่ถอยกลับไป แต่ก็ยังมีคนที่จะมุ่งมั่นวิ่งเข้ามา
ที่แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ฝึกฝนปืนของซูฮ่าว เมื่อได้ยิงผู้คนจำนวนมากที่วิ่งเข้ามา ในที่สุดซูฮ่าวก็สามารถคำนวณได้อย่างถูกต้อง สุดท้ายเขาสามารถฆ่าคนได้เป็นครั้งแรกด้วยปืนไรเฟิล
ในเม่ือเขาประสบความสำเร็จครั้งแรกแล้วครั้งที่สองหรือต่อไปจะง่ายขึ้นมาก
ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ …
จนตอนนี้ เว้นเสียแต่ว่าฝ่ายตรงข้ามมีความสามารถพิเศษ ซูฮ่าวมีโอกาสโดยเป้า 100 เปอรเซ็นต์
ภายใน 5000 เมตร หัวแตกแน่ๆ
แต่ทุกครั้ง เขาจะใช้พลังงานโดยใช้ในการวิเคราะห์แบบเพื่อช่วยในแม่นยำ มันค่อนข้างน่ากังวล ถ้ามีคนจำนวนมากๆเข้ามาพร้อมกัน ซูฮ่าวอาจต้องใช้พลังงานทั้งหมดของเขา
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่ซูฮ่าวได้เริ่มฆ่าไป 1 คนนั้นเห็นได้ชัดว่าผู้คนเริ่มน้อยลง อย่างน้อยภายในรัศมีนี้ทุกคนที่เข้ามาจะ….หัวแตก หลังจากที่หลายมาเข้าโดนยิงเข้าที่หัวในที่สุดคนก็เริ่มไม่มาบ้างแล้ว
คนที่กลัวหรือคนที่โดนฆ่าโดยซูฮ่าว ถ้าพวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นเพียงเป้าหมายในการฝึกฝนของซูฮ่าว พวกเขาคงกระอีกเลือดตายกันอีกครั้ง
หลังจากผ่านไป 5 วัน ซูฮ่าวได้เข้าใจในการใช้ปืนไรเฟิลแล้ว นอกจากนี้เอปน้ำแข็งเกล็ดใต้ดินที่นี่เกือบทั้งหมดโดนซูฮ่าวสังหารเรียบร้อยแล้ว
หลังจากเก็บปืนไรเฟิลไว้ในกระเป๋า ซูฮ่าวเดินตรงไปยังใจกลางหมู่บ้าน
หลังจากใช้การตรวจจับสิ่งมีชีวิต เขาสังเกตเห็นว่ากว่าครึ่งของเอปน้ำแข็งใต้ดินโดยกำจักแล้ว แม้แต่ตัวที่อยู่รอบๆ ห้องใต้ดินก็ถูกสังหารด้วย
“วูป”
ซูฮ่าวกระโดดไปยังบ้านหลังนั้น หลังจากยืนยันว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ใกล้ๆบ้าน เขาก็เปิดประตูเข้าไป
“แอ๊ด ~”
ฝุ่นละอองคลุ้มไปทั่วซูฮ่าวย่นคิ้ว เมื่อมองไปสิ่งของสิ่งเต็มไปด้วยฝุ่น เขาก็คาดเดาได้ว่าคงไม่มีใครมาที่นี่เป็นเวลานานแล้ว
เอปไอ้น้ำแข็งใต้ดินไม่เข้ามาในนี้แน่นอน มอนเตอร์ที่กลัวความร้อนหรอจะกล้าเข้ามาในห้องนี้ พวกมันชอบสถานที่ที่เย็นๆเท่านั้น
ห้องมีขนาดใหญ่และดูว่างเปล่า
แต่เพียงเดินไปดูใกล้ๆ ซูฮ่าวก็เห็นสิ่งที่คุ้นตามากมาย โต๊ะทดลอง เสื้อกาวน์สีขาว ขวดยาที่ทิ้งไว้บนพื้นทั้งโต๊ะและเก้าอี้หลายอย่าง
ซูฮ่าวค่อยๆสังเกตุรอบๆอย่างละเอียด
ที่นี่ … เคยมีคนอยู่ที่นี่มาก่อนอย่างน้อย 10 ปีที่แล้ว เพื่อการกวาดล้างมอนเตอร์ออกจากที่นี่ พวกเขาจึงจัดตั้งห้องแล็บเพื่อทำการทดลอง เหตุผลที่เอปน้ำแข็งใต้ดินซึ่งไม่ควรปรากฏตัวอยู่ที่นี่ แต่มันมาอาศัยอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าคำตอบนี้จะได้รับการเปิดเผยแล้ว
ดูเหมือนว่าคนที่รับผิดชอบ จะไม่สำเร็จการทดสอบ
จากสถานที่ที่ก็ยุ่งเหยิงวุ่นวาย เขาสันนิษฐานว่าพวกเขาต้องรีบหลบหนีไปอย่างรีบร้อน เนื่องจากมีบางสิ่งที่ผิดพลาดเกิดขึ้น
“10 ปีที่แล้ว…”
ซูฮ่าวลองนึก เมื่อ 10 ปีที่แล้วมันไม่มีข่าวใหญ่อะไร หรือบางทีอาจเพราะเขายังเด็กเกินไปในตอนนั้น แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่นี่ พวกเขาก็ได้หนีไปอย่างน้อย เป็น 10 ปีแล้ว หมายความว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแล็บที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้น